วันเสาร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2562

อวกาศ : นักดาราศาสตร์ค้นพบน้ำเป็นครั้งแรกบนดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะในเขตเกื้อหนุนสิ่งมีชีวิต

ดาวเคราะห์


ทีมนักดาราศาสตร์ของสหราชอาณาจักรค้นพบว่า ดาว K2-18b ซึ่งเป็นดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะที่อยู่ห่างจากโลก 111ปีแสง มีน้ำเป็นองค์ประกอบสำคัญในชั้นบรรยากาศ
ถือเป็นครั้งแรกที่มีการค้นพบร่องรอยของน้ำ บนดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะที่โคจรอยู่ในเขตเอื้อต่อการอยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิต(Goldilocks Zone) กล่าวคือดาวเคราะห์อยู่ในระยะห่างจากดาวฤกษ์อย่างพอเหมาะ ทำให้มีอุณหภูมิไม่ถึงขั้นร้อนจัดหรือเย็นจัดมากเกินไป จนน้ำสามารถคงสภาพเป็นของเหลวอยู่ที่พื้นผิวดาวได้
ทีมนักดาราศาสตร์จากยูนิเวอร์ซิตี คอลเลจ ลอนดอน หรือยูซีแอล (UCL)รายงานการค้นพบดังกล่าวในวารสารNature Astronomy โดยระบุว่าการค้นพบน้ำบนดาวเคราะห์ที่อยู่ในเขตอุณหภูมิเหมาะสมดังกล่าว ทำให้ดาว K2-18b กลายเป็นสถานที่เป้าหมายในการค้นหาสิ่งมีชีวิตต่างดาวแห่งหนึ่งที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดในขณะนี้
ศาสตราจารย์จีโอวานนา ทีเร็ตตี ผู้นำทีมนักดาราศาสตร์ของยูซีแอลบอกว่า ได้ค้นพบน้ำบนดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะดังกล่าว จากการวิเคราะห์ข้อมูลที่กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิลตรวจพบระหว่างปี2016-2017 และทราบถึงองค์ประกอบทางเคมีในชั้นบรรยากาศของดาวดวงนี้ได้ โดยสังเกตลักษณะของแสงที่ส่องผ่านชั้นบรรยากาศออกมา ซึ่งแสงดาวจะเปลี่ยนไปขณะที่ดาวเคราะห์กำลังเคลื่อนผ่านตัดหน้าดาวฤกษ์ของตนเอง คนส่วนใหญ่รู้จักปรากฏการณ์นี้ในชื่อว่า "ทรานซิต" (transit)
ผลการวิเคราะห์แสงดาว K2-18b ขณะเกิดปรากฏการณ์ทรานซิต ชี้ว่ามีโมเลกุลของน้ำอยู่ในชั้นบรรยากาศปริมาณมาก โดยอาจมีน้ำเป็นองค์ประกอบได้สูงสุดถึง 50% เลยทีเดียว

 ดาวเคราะห์

ดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะดวงนี้ ยังมีคุณสมบัติอื่น ๆ ที่เหมาะสมต่อการเป็นแหล่งกำเนิดและอาศัยของสิ่งมีชีวิตคล้ายกับโลกอีกด้วย เช่นมีขนาดไม่ใหญ่โตจนเกินไป โดยมีขนาดใหญ่กว่าโลกราว 2 เท่า และคาดว่ามีอุณหภูมิอยู่ระหว่าง 0-40 องศาเซลเซียส จัดว่าเป็นดาวเคราะห์ประเภทซูเปอร์เอิร์ธ (Super-Earth) คือมีขนาดใหญ่กว่าโลกแต่ไม่ใหญ่เกินขนาดของดาวน้ำแข็งอย่างเนปจูนและยูเรนัส
อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถยืนยันได้แน่ชัดว่ามีสิ่งมีชีวิตอยู่บนดาว K2-18b จริงหรือไม่ แต่ภายในช่วง 10 ปีข้างหน้า นักวิทยาศาสตร์จะสามารถใช้อุปกรณ์สำรวจที่ทันสมัยขึ้น เข้าตรวจสอบก๊าซในชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะได้ เพื่อให้ทราบว่ามีก๊าซที่เกิดจากสิ่งมีชีวิตปะปนอยู่บ้างหรือไม่และมีอยู่มากน้อยเพียงใด
อุปกรณ์สำรวจรุ่นใหม่เหล่านี้ได้แก่กล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์เว็บบ์ (JWST)ซึ่งมีกำหนดจะปล่อยขึ้นสู่ห้วงอวกาศในปี2021 รวมทั้งกล้องโทรทรรศน์อวกาศ ARIELขององค์การอวกาศยุโรป ซึ่งจะเริ่มใช้งานในปี 2028 โดยใช้รังสีอินฟราเรดตรวจจับองค์ประกอบต่าง ๆ ในชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะจากระยะไกล
ศ. ทีเร็ตตีกล่าวด้วยว่า นักดาราศาสตร์ยังคงต้องศึกษาต่อไปในระยะยาว เพื่อให้ทราบว่าจะต้องใช้กล้องโทรทรรศน์อวกาศรุ่นใหม่มองหาก๊าซชนิดใดบ้างที่เป็นสัญลักษณ์ของสิ่งมีชีวิต โดยอาจจะต้องศึกษาบรรยากาศของดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะหลายร้อยดวง รวมทั้งกำเนิดและความเป็นมาของมันเสียก่อนที่จะได้ข้อสรุปในเรื่องนี้

วันอังคารที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2562

อวกาศ : หุ่นยนต์สำรวจดวงจันทร์ของจีนพบวัตถุประหลาดคล้ายเจลที่ด้านไกลของดวงจันทร์

หุ่นยนต์ตระเวนสำรวจดวงจันทร์ด้านไกล "อี้ทู่-2" หรือ "กระต่ายหยก" ของจีน

องค์การบริหารกิจการอวกาศแห่งชาติจีน (CNSA) แถลงว่าหุ่นยนต์ตระเวนสำรวจดวงจันทร์ด้านไกล "อวี้ทู่-2" (Yutu-2) หรือ "กระต่ายหยก" ได้พบวัตถุประหลาดคล้ายเจลที่สะท้อนแสงเป็นมันวาว ในแอ่งหลุมแห่งหนึ่งที่เพิ่งเกิดจากการชนของอุกกาบาตเมื่อไม่นานมานี้
แม้ทางการจีนจะยังไม่เปิดเผยว่าวัตถุดังกล่าวคืออะไร แต่บรรดานักวิทยาศาสตร์จากต่างประเทศส่วนหนึ่งคาดว่า น่าจะเป็นแก้วหลอมละลาย ซึ่งเกิดจากความร้อนหลังการพุ่งชนของอุกกาบาตดังกล่าว
การค้นพบครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าตรงกับวันที่ 8 ของเดือนใหม่ตามการนับวันเวลาบนดวงจันทร์ เนื่องจากการหมุนรอบตัวเองและรอบโลกที่เชื่องช้ากว่า ทำให้ 1 วันของดวงจันทร์นั้นยาวนานเท่ากับ 2 สัปดาห์บนโลก
ในช่วงใกล้เที่ยงของวันดังกล่าว ทีมนักวิทยาศาสตร์จีนผู้ควบคุมยานฉางเอ๋อ-4 และหุ่นยนต์สำรวจอวี้ทู่-2 กำลังเตรียมสั่งให้อุปกรณ์สำรวจ "นอนกลางวัน" ซึ่งหมายถึงหยุดพักการทำงานชั่วคราว เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากอุณหภูมิสูงในช่วงที่ดวงอาทิตย์อยู่เหนือศีรษะโดยตรง
แต่ในขณะนั้นเอง สมาชิกของทีมควบคุมผู้หนึ่งได้สังเกตเห็นวัตถุประหลาดในแอ่งหลุมที่อยู่ใกล้เคียง จึงระงับคำสั่งพักการทำงานช่วงเที่ยงเอาไว้ก่อน และให้หุ่นยนต์สำรวจเคลื่อนเข้าไปตรวจสอบ โดยใช้เครื่องมือวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีของสารจากการดูดกลืนและสะท้อนแสงย่านใกล้อินฟราเรด (VNIS)  

บริเวณหลุมอุกกาบาตที่พบวัตถุประหลาดคล้ายเจล


บันทึกการตระเวนสำรวจของหุ่นยนต์อวี้ทู่-2 ระบุว่าวัตถุดังกล่าวแตกต่างจากพื้นผิวดวงจันทร์ที่เต็มไปด้วยฝุ่นละออง (regolith) อย่างมาก ทั้งรูปร่าง สีสัน และผิวสัมผัส แต่ยังไม่มีการสรุปผลว่ามันคืออะไรกันแน่
นักวิทยาศาสตร์ต่างชาติบางส่วนแสดงความเห็นว่า พื้นผิวของดวงจันทร์นั้นออกจะแห้งผากขาดความชื้น ทำให้โอกาสที่วัตถุดังกล่าวจะคงสภาพเป็นเจลอยู่ได้มีน้อยมาก หากเป็นแก้วหลอมละลายจริงก็น่าจะแข็งตัวขึ้นแล้วในขณะนี้
ส่วนที่มีผู้แสดงความเห็นว่าวัตถุดังกล่าวน่าจะเป็นร่องรอยของสิ่งมีชีวิตต่างดาวหรือเอเลียน หรือแม้กระทั่งหมีน้ำทาร์ดิเกรดที่เป็นข่าวว่าอาจอยู่รอดได้บนดวงจันทร์ก่อนหน้านี้ นักวิทยาศาสตร์หลายคนบอกว่าไม่น่าจะเป็นไปได้